บีเจซี ได้รับเกียรติเข้าร่วมงาน “Belt and Road Summit” ครั้งที่ 7 โชว์ศักยภาพด้านธุรกิจ เพื่อเตรียมการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจและความร่วมมือต่างๆ ในเส้นทางสายไหมใหม่ จัดโดยเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (HKSAR) และสภาพัฒนาการค้าฮ่องกง (HKTDC)
วันที่ 31 สิงหาคม 2565 คุณอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี ได้รับเชิญจากนายเอ็ดเวิร์ด เหยา (Mr. Edward Yau) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และการพัฒนาเศรษฐกิจฮ่องกง เข้าร่วมในการประชุมหารือในงานประชุมสุดยอด “Belt and Road Summit” ครั้งที่ 7 เพื่อแสดงมุมมองและเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับฮ่องกงและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเส้นทางสายไหมใหม่ ภายใต้แนวคิด “Heraldinga New Chapter : Collaborate and Innovate” ระหว่างวันที่ 31 สิงหาคม - 1 กันยายน 2565 ณ เมืองฮ่องกง ผ่านระบบ VDO Conference
คุณอัศวิน กล่าวว่า “การดำเนินนโยบาย One Belt One Road สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ 20 ปี และนโยบาย 4.0 ของโครงการที่กำลังดำเนินอยู่ของประเทศไทย เราเห็นโอกาสในการขยายการค้าและการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน สามารถเชื่อมโยงกับตลาดโลกได้ดีขึ้นผ่านเศรษฐกิจจีน-อินโดจีน ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการค้าและการลงทุนในภูมิภาคโดยเฉพาะกลุ่มประเทศ CLMV ในขณะเดียวกันประเทศไทยมีทั้งนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ One Belt One Road ของจีน จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับตลาดใหม่เพื่อรองรับการส่งออกสินค้าไทยจำนวนมาก นอกจากนี้สามารถมองหาการร่วมทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อพัฒนาตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงอาเซียนที่สอดคล้องกับกลยุทธ์ของจีน”
สำหรับหัวข้อ “Business Plenary Collaborate for a Bright New Era” นำโดย Mr.Ronnie C. Chan, ประธานบริษัท Hang Lung Properties และมีองค์ปาฐกถาร่วมเสวนาอีก 4 ท่าน ได้แก่
Sir Rod Eddington AO, ประธานบริษัท Infrastructure Partnerships Australia; ประธานสภาที่ปรึกษาประจำ J.P. Morgan’s Asia Pacific Advisory Council; และประธานกรรมการ Lion
Rt Hon Sir John Key GNZM, AC, นายกรัฐมนตรีคนที่ 38 ประเทศนิวซีแลนด์
Mr. Liu Liange, Chairman, ประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศจีน
Dr.YK Pang, GBS, JP, รองกรรมการผู้จัดการและประธานกรรมการ บริษัท Hong Kong, Jardine Matheson Holdings
ในการประชุมครั้งนี้ได้มีการนำข้อตกลง RCEP เข้ามาหารือในมุมมองประโยชน์ที่โครงการ Belt and Road Initiative จะได้รับต่อไปในอนาคต นอกจากนี้ภายในงานยังมีข้าราชการและนักธุรกิจชั้นนำ จำนวน 80 ท่าน จากประเทศทั่วโลกเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และมองหาโอกาสทางธุรกิจร่วมกัน